ในการสร้างบ้านนั้นหลายคนมักจะลืมเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งของบ้านนั้นก็คือ รางน้ำฝน เพราะประเทศไทยของเรามีลักษณะอากาศแบบร้อนชื้อ มีฝนตกเฉลี่ยปีหนึ่งประมาณ 4 เดือน เลยทีเดียว และรางน้ำฝนนั้นมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใดวันนี้เราจะไปดูข้อมูลกันว่าบ้านที่มีรางน้ำฝนนั้นจะมีอายุการใช้งานยืนยาวมากกว่าบ้านที่ไม่มีรางน้ำฝน
ป้องกันพื้นซีเมนต์หรือสวนกัดเซาะ น้ำฝนที่ไหลลงมาจากหลังคาบ้านจะมีปริมาณมากและจะเป็นเม็ดฝนที่ใหญ่พอสมควร เมื่อบวกกับความสูงแล้วจะทำให้น้ำฝนที่ไหลลงจากหลังคามีพลังในการกัดเซาะ หากเป็นพื้นดินก็อาจจะทำให้เป็นหลุมเล็กๆได้เลยหรือหากเป็นพื้นปูนก็จะทำให้พื้นกัดกร่อนออกได้ รางน้ำฝนจึงช่วยปกป้องพื้นบ้านของเราให้คงทนยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น
ป้องกันผนังเสียหายจากเชื้อรา เวลาที่นำฝนไหลลงจากหลังคาหากมีกระแสลมพัดเข้าตัวบ้านก็จะพานำฝนกระเด็ดติดฝาผนังหรือวงกบของบ้านได้ เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้นอาจจะทำให้วงกบไม้ผุพัง หรือทำให้เกิดความชื้นต่อผนังได้ และในบางทีฝนอาจจะลอดผ่านช่องหน้าต่างทำให้น้ำเจิ่งนองบ้านของเรา
บ้านทรุด หลังคาบ้านที่ไม่มีที่รองน้ำฝนจะไหลลงข้างบ้านเมื่อซึมลงดินในปริมาณมากๆ อาจจะทำให้เกิดการดินทรุดใต้ตัวบ้านของเราเป็นเหตุให้เกิดผลเสียหายต่อบ้านของเราได้ เช่น ดินทรุด หรือ โครงสร้างของบ้านทรุดได้เช่นกัน
น้ำฝนไหลเข้าบ้านคนอื่นๆ สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนเมืองที่มีหลังคาใกล้ๆกัน หากไม่ทำรางน้ำฝนอาจจะทำให้น้ำที่ไหลลงจากหลังคาด้วยความเร็วสาดเข้าพื้นที่บ้านของคนอื่นได้โดยเฉพาะหลังคาหน้าจั่วหรือหลังคาชันๆ ซึ่งปัญหานี้อาจจะทำให้เพื่อนบ้านเกิดความไม่พอใจต่อเราได้ อย่าลืมว่าการมีเพื่อนบ้านที่ดี ดีกว่ามีรั่วบ้านเป็นล้านเท่า